Monday, December 31, 2007

สวัสดีปีใหม่ 2551

นิสิตที่รักทุกคน ครูดีใจที่ทุกคนเห็นค่าแล้วเข้ามารับคำอวยพรที่ครูขอมอบให้ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ของปีนี้ ครูเองไม่เห็นว่าการซื้อเสื้อแบรนด์เนมแจกพวกคุณคนละชุดสองชุดจะมีประโยชน์อันใด เพราะนัยของการขึ้นปีใหม่ลึกซึ้งกว่าการเฉลิมฉลองหรือการให้ของขวัญที่เป็นวัตถุมีราคา

โดยส่วนตัวแล้ว ครูเห็นว่าคำอวยพรที่ประทับอยู่ตามบัตรอวยพรที่ขอให้มีความสุข ขอให้ร่ำรวย ขอให้ไร้โรคภัย ขอให้สวย รวย เก่ง ล้วนเป็นสิ่งที่ออกจะเลื่อนลอยอยู่ไม่น้อย ถ้าคุณมีความทุกข์สาหัส คำอวยพรย่อมไม่สร้างสุขให้ได้ เช่นเดียวกับที่ร่างกายของคุณคงไม่แข็งแรงขึ้นมาทันตา หากคุณไม่ได้รักษาสุขภาพอย่างเพียงพอ หรือคุณเองก็คงร่ำรวยขึ้นมาไม่ได้ หากอาศัยเพียงมนต์ขลังของคำอวยพรที่คนเอ่ยแก่กันทั่วไปโดยไม่ได้ใส่ใจความหมายของมันด้วยซ้ำ
จากที่กล่าวมาทั้งหมด ครูจึงขอเสนอคำอวยพรแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้คุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ที.เอส.อิเลียต กวีและนักวิจารณ์ชื่อดัง กล่าวถึงปีใหม่ไว้อย่างน่าสนใจว่า “For last year's words belong to last year's language and next year's words await another voice.” ขออนุญาตแปลว่า “ถ้อยคำของปีเก่าย่อมเป็นภาษาของปีเก่า และถ้อยคำของปีใหม่กำลังรอเสียงใหม่ที่จะเปล่งออกมา” อิเลียตอาจมองการขึ้นปีใหม่ในมิติของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ครูจึงขออวยพรให้คุณทุกคนมีกำลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองให้เป็นไปในทางที่ดีและมีดุลยภาพอย่างที่มันควรจะเป็น

ด้วยความปรารถนาดีอันลึกซึ้ง
อาจารย์นัทธนัย ประสานนาม เมาเร่อ

Saturday, April 28, 2007

The Last day@the faculty's office






Farewell Party...Goodbye my dear Phitsanulok







เหล่านี้คือรูปในงานเลี้ยงส่งในบรรดาหลายวาระที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราประกาศการไปจากพิษณุโลกอย่างเป็นทางการ กลุ่มแรกคือรูปงานเลี้ยงส่งของอาจารย์ในภาควิชาภาษาและคติชนวิทยา

Wednesday, April 25, 2007

มิติสถานที่ในมหาวิทยาลัยนเรศวร















บล็อกวันนี้ขออุทิศให้เรื่องเล่าขนาดสั้นเกี่ยวกับมิติสถานที่ในมหาวิทยาลัยนเรศวร ในโอกาสที่จะอำลาจากที่นี่แล้ว





รูปที่ 1 อาคารหอสมุดใหม่ สวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนเรือนกระจกสำหรับเพาะต้นไม้ (glass house or green house) เสียดายอย่างสุดซึ้งที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ต้องสะดวกสบายมากแน่ๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจำนวนหนังสือจะเพิ่มขึ้น และในบรรดาหนังสือเหล่านั้นขอให้มีหนังสือที่เราสั่งไปตั้งแต่เราบรรจุใหม่ๆมาขึ้นชั้นด้วย
รูปที่ 2 เป็นป้ายรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนิสิต ข้อความไม่ค่อยกระทบใจเท่าใดนัก ต่างกับข้อความตอนรณรงค์ไม่ให้ทุจริตในการสอบ ที่กล่าวถึงการเพิ่มประชากรควาย นับเป็นป้ายประกาศที่มีศิลปะการใช้ภาษาดี
รูปที่ 3 เบื้องหลังเป็นสำนักอธิการบดีหลังใหม่ กับอาคารเรียนรวมเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เราเดินและนั่ง "รถส้ม" ของคณะไปปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน เสียดายอีกเหมือนกันที่ไม่ได้อยู่ชื่นชมความโอ่อ่าสง่างามของอาคารหลังใหม่นี้













รูปที่ 4 นายแบบเริ่มหน้ามันแล้ว เบื้องหลังคือหอพระที่ยังสร้างไม่เสร็จ ระหว่างปรับภูมิทัศน์ในบริเวณนี้ ต้นไม้ถูกโค่นไปนับหลายสิบต้น อาจารย์รุ่นเก่าๆ ตั้งแต่ครั้งเป็น มศว พิษณุโลก ก็บ่นกันตลอดว่าตอนปลูกก็ช่วยกันเยอะมาก กว่ามันจะโตให้ร่มเงา แต่พอจะโค่นก็โค่นกันซะง่ายๆ ก็งี้แหละครับอาจารย์ทำลายมันง่ายกว่าสร้างสรรค์ ตึกเหลี่ยมๆข้างหลังคือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่มีนิสิตแพทย์ที่เก่งที่สุดในภาคเหนือตอนล่างประจำการอยู่

















รูปที่ 5 ดอกไม้ที่ลานสมเด็จฯ ลานสมเด็จก็คือนามลำลองของสถานที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวร มีธรรมเนียมที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ นิสิตที่นี่จะบูชาสมเด็จฯด้วยการ "ถูลานสมเด็จ" ไม่แน่ใจว่านี่คือการประกอบพิธีที่สัมพันธ์กับการแก้บนหรือไม่ แต่ก็เป็นธรรมเนียมที่มีประโยชน์



Friday, January 05, 2007

แบบฝึกก่อนเรียนอ่านตีความ

ให้นิสิตชมภาพต่อไปนี้แล้วแสดงความเห็นว่าภาพสื่อความหมายอะไร และนิสิตมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ชมภาพนี้ เขียนตอบในส่วน comment ลงชื่อและวิชาเอกไว้ เลือกสถานะ annonymous สิ่งนิสิตเขียนอาจไม่ปรากฏให้เห็นทันทีเพราะต้องรอให้ครูตอบรับเสียก่อน ลองเขียนเยอะๆ ฝึกฝนไว้ก่อนการทดสอบหนังสืออ่านนอกเวลา

อ.นัทธนัย ประสานนาม


ภาพจาก www.spsclub.org/mike_smith_gallery.htm